โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinscher) หรือ โดเบอร์แมน สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นอย่างไร ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็ต้องมองว่ามันดูเท่ ดูน่าเกรงขาม และหากใครที่สนใจอยากจะเลี้ยงสุนัขโดเบอร์แมน ก็มาติดตามในบทความนี้กันได้เลย เราจะมา ทำความรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์ตัวใหญ่พลังเยอะ พร้อมวิธีการเลี้ยงการให้อาหาร เพื่อเตรียมตัวก่อนรับมาเลี้ยงได้อย่างถูกต้องถูกวิธี
ประวัติสายพันธุ์โดเบอร์แมน
โดเบอร์แมน มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในประเทศเยอรมัน โดยมาจากนักเพาะพันธุ์สุนัข หลุยซ์ โดเบอร์แมน เขาได้มีอาชีพเป็นพนักงานเก็บภาษีและได้เดินทางไปหลายแห่ง จึงจำเป็นต้องเลี้ยงสุนัขไว้ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมเดินทางขณะไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาทำการเพาะพันธุ์สุนัขพันธุ์นี้อย่างไร จนกระทั่งมีนักประวัติศาสตร์บางคนได้ระบุถึงที่มาของสุนัขสายพันธุ์โดเบอร์แมน ว่าอาจจะมาจากการผสมพันธุ์ห้ามสายพันธุ์กันระหว่าง สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ พันธุ์แมนเชสเตอร์ และพันธุ์เยอรมันฟินสเชอร์
โดเบอร์แมนเป็นสุนัขรุ่นแรกที่ถือว่ามีใบหน้าที่กว้าง รวมถึงมีมวลกระดูกที่มากกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นหลัง อีกทางเมื่อเวลาผ่านไปแล้วก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีโครงสร้างร่างกายเหมือนกับในปัจจุบันนี้ และสุนัขสายพันธุ์นี้ก็ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 1899 จนกระทั่งได้ถูกนำเข้าในอเมริกาครั้งแรกเมื่อปี 1908 ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 20 โดเบอร์แมน มักจะใช้ในการ ทำนาวิกโยธินในการรบมหาสมุทรแปซิฟิกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับความนิยมอย่างมากเป็นสหายคู่ใจ ที่กล้าหาญ ร่วมรบในแนวหน้า
ต่อมาโดเบอร์แมนก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และให้ทำหน้าที่เป็นสุนัขตำรวจ บ้างก็ใช้เพื่อเป็นสุนัขกู้ภัย ใช้แต่การบำบัดรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทางสหรัฐได้นำโดเบอร์แมนเข้ามาร่วมรบในสงครามกวม และทำให้มันได้ฉายาว่า Devil Dogs จนเมื่อจบสงครามลงก็ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความเสียสละ นิสัยที่ซื่อสัตย์ของพวกมัน ที่ทำให้ได้รับความนิยม แก่ผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้
สุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน มีลักษณะเด่นอย่างไร
โดเบอร์แมนเป็นสุนัขขนาดกลาง ที่มีความสูงในช่วงวัยเจริญพันธุ์ประมาณ 26-28 นิ้ว โดยตัวเมียอาจจะสูงน้อยกว่าตัวผู้ไปประมาณ 2-4 นิ้ว ส่วนน้ำหนักตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 35-45 กิโลกรัม และตัวเมียจะมีน้ำหนัก 27-41 กิโลกรัม มีศีรษะที่ลักษณะยาวเรียว ลำตัวผอมเพียว จุดเด่นอยู่ที่กล้ามเนื้อที่ทำให้มันสามารถคล่องแคล่วได้อย่างว่องไว ให้มีความแข็งแรง ถือว่าเป็นลักษณะพิเศษที่มีในสุนัขประเภทนี้โดยเฉพาะ
โดเบอร์แมนจะมีขนที่เรียบ สั้น มีความนุ่มและมันวาว โดยจะมีหลายสีตั้งแต่สีแดงสีดำ สีน้ำตาลเหลือง และมีรอยแต้มสีสนิมที่เหนือดวงตา บนจมูกปากลำคอ หลังหางและหน้าอก ส่วนหาของโดเบอร์แมนนั้นจะมีหางเป็นลักษณะยาวและมีความเร็ว ในสหรัฐอเมริกามักจะมีบางกลุ่มที่ตัดหางของพวกมันตั้งแต่มันยังเล็ก ส่วนหูจะมีลักษณะห้อยตกลงมาตั้งแต่เกิด นักเพาะพันธุ์สุนัข จึงชอบทำการตกแต่งและตัดทำใบหูให้ตั้งขึ้น ในช่วงอายุ 7-9 สัปดาห์ อีกทางมันยังเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยมีกลิ่นตัว ดูแลง่ายและมีความสะอาด โดยโดเบอร์แมน จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 ปี
สุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน มีลักษณะนิสัยอย่างไร
โดเบอร์แมนถือว่าเป็นสุนัขที่มีความซื่อสัตย์ มั่นใจในตัวเอง เป็นมิตรกับทุกคน และยังมีความกล้าหาญ ชอบการผจญภัย มีความกระตือรือร้นตลอดเวลา บางครั้งก็ดูน่าเกรงขาม ได้ลุคของความเป็นผู้ปกป้องผู้พิทักษ์ จึงทำให้มันถูกใช้เป็นสุนัขตำรวจ การลาดตระเวน หรือเป็นสุนัขเฝ้าบ้านกันโจรขโมยได้อย่างยอดเยี่ยม พวกมันมีสัญชาตญาณที่ดี จึงมักจะเห่าเตือนเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้าใกล้ หากเจ้าของมีอันตรายใครเข้ามาทำร้ายพวกมันก็จะต่อสู้แบบไม่ลังเล เหมาะกับการเลี้ยงเพื่อนสุนัขครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่พื้นฐานของมันแล้วก็มีนิสัยที่ก้าวร้าวและเกรี้ยวกราดอยู่บ้าง ดังนั้นแนะนำว่าสำหรับใครที่นำมาเลี้ยงก็ควรที่จะมีการฝึกนิสัยตั้งแต่มันยังเล็ก ฝึกให้มันรู้วิธีโต้ตอบอย่างถูกต้อง หัดเข้าสังคมตั้งแต่เด็กเพื่อลดนิสัยก้าวร้าว ลงให้สามารถเข้ากับสุนัขตัวอื่นๆ และสัตว์อื่นได้ด้วย
แนวทางการดูแลโดเบอร์แมนและออกกำลังกาย
สุนัขสายพันธุ์โดเบอร์แมน ถือว่ามีพลังงานที่เยอะ ดังนั้นเราต้องให้มันออกกำลังกาย ตลอดทุกวัน โดยให้มีการออกกำลังกายมากกว่า 40 นาทีต่อวัน นอกจากจะทำให้ร่างกายสุขภาพแข็งแรงแล้วยังช่วยลดนิสัยความก้าวร้าวที่เป็นพื้นฐานของพวกมันลงได้ และพื้นที่ในการออกกำลังกายนั้นก็ควรจะให้เป็นพื้นที่กว้างรองรับในการวิ่งเล่นได้ตลอดเวลา อีกครั้งพวกมันจะชอบการผจญภัย จึงสามารถนำพวกมันไปเดินป่าเป็นเวลาหลายชั่วโมงได้เลย หากิจกรรมที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย ความอดทน จะช่วยพัฒนาได้อย่างยอดเยี่ยม การออกกำลังกายที่แนะนำจะเป็นการเดินทางระยะไกล หรือการวิ่งเร็ว เดินป่า เป็นต้น
หมาพันธุ์โดเบอร์แมน ควรให้อาหารอย่างไร
การให้อาหารของสุนัขโดเบอร์แมน ควรจะให้อาหารที่มีคุณภาพดี ใช้วัตถุดิบที่ประกอบด้วยโปรตีน และผักที่มีคุณภาพ และหลีกเลี่ยงธัญพืชในกลุ่มที่มีส่วนผสมของถั่วเหลือง ข้าวโพด สาลี โดยปริมาณอาหารที่ได้รับนั้นขึ้นอยู่กับขนาดตัวของพวกมันด้วย เช่นหากมันหนัก 80 ปอนด์ก็ควรจะให้อาหารเม็ดวันละ 4 ถ้วย โดยแบ่งให้เป็นวันละ 2 มื้อ เพื่อช่วยให้ท้องไม่อืดหรือมีปัญหากระเพาะบิด นอกจากนี้ปริมาณการให้อาหารยังปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับ อายุ กิจกรรมของสุนัขในแต่ละวัน รวมถึงปริมาณการเผาผลาญในร่างกายของพวกมันด้วย สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามความเหมาะสม หรือหากไม่มั่นใจก็สามารถนำสุนัขไปปรึกษาสัตวแพทย์ได้เช่นกัน