สุนัขพันธุ์คอร์กี้ หนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนไทย เพราะเสน่ห์ความเป็นเอกลักษณ์ของดวงตาที่กลมโตและน่ารัก มาพร้อมรอยยิ้มที่สดใส ตัวเตี้ยขาสั้นๆ แถมยังอ้วนกลม จนใครๆ ต่างก็เรียกมันด้วยความเอ็นดูว่า แง่งขิง โดยเฉพาะช่วงสะโพกที่กลมเวลาวิ่งจะส่ายไปมาอย่างน่าเอ็นดู มีความน่ารักน่าชัง จึงไม่แปลกใจเลยที่คอร์กี้จะกลายเป็นขวัญใจของผู้คนมากมาย ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์นี้กันให้มากขึ้นว่าหากจะเลี้ยงควรรู้เรื่องอะไรบ้าง
ประวัติสายพันธุ์ คอร์กี้
เวลช์ คอร์กี้ (Welsh Corgi) สุนัขสายพันธุ์เล็กที่มีถิ่นกำเนิดในแคว้นเวลส์ ประเทศอังกฤษ โดยคำว่า คอร์กี้ มาจากคำในภาษาเวลส์ว่า คอร์ ซึ่งแปลว่า แคระ และ กี้ ซึ่งย่อมาจาก ซิมเรก หมายถึง สุนัข โดยเวลช์ คอร์กี้ 2 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ พ็อมโบรค เวลช์ คอร์กี้ และคาร์ดิแกน เวลช์ คอร์กี้ พันธุ์พ็อมโบรคเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากกว่าในประเทศไทย ซึ่งสายพันธุ์คอร์กี้ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรทรงเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ไว้ถึง 4 ตัว สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักในด้านความฉลาด ความซื่อสัตย์ และความเป็นมิตร ทำให้เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุ
ต่อมาในศตวรรษที่ 11 มีการบันทึกถึงสุนัขพันธุ์เวลช์ แคทเทิล ซึ่งมทำหน้าที่เป็นสุนัขทำงานในฟาร์มปศุสัตว์ เชื่อกันว่าสุนัขพันธุ์นี้เป็นบรรพบุรุษของเวลช์ คอร์กี้ในปัจจุบัน ในปี 1925 สุนัขพันธุ์เวลช์คอร์กี้ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในงานแสดงสุนัขที่เวลส์ ได้รับกระแสชื่นชมในช่วงนั้นว่าเป็นสุนัขที่มีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์ ใครเห็นก็ต้องประทับใจ จนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สุนัขพันธุ์คอร์กี้ มีลักษณะเด่นอย่างไร
สุนัขคอร์กี้ ถือว่าเป็นสุนัขที่มีลำตัวที่สั้นแคระ และมีทักษะการต้อนวัวเก่งมากๆ ในสมัยก่อนที่คนนิยมทำฟาร์มกันเป็นอาชีพ จึงมักจะเลี้ยงสุนัขคอร์กี้ไว้ด้วย และมันมีข้อได้เปรียบที่ช่วยคนทำฟาร์มได้ดีทีเดียวอย่างการต้อนฝูงวัว ด้วยช่วงขาที่สั้นทำให้สุนัขพันธุ์นี้สามารถหลบหลีกการเตะจากขาหลังของวัวเวลาที่มันรำคาญได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไวมากๆ โดยมันมักจะวิ่งอยู่ข้างหลังฝูงวัว และหากมีวัววิ่งย้อนกลับมา คอร์กี้จะกระโดดกัดที่จมูกเพื่อให้วัวกลับเข้าฝูง นอกจากการต้อนวัวแล้ว คอร์กี้ยังสามารถต้อนฝูงแกะและม้าแคระได้ไม่แพ้กันเลย ปัจจุบันบางฟาร์มก็ยังคงนิยมเลี้ยงคอร์กี้ไว้ต้อนวัวต้อนแพะไว้อยู่เหมือนกัน อีกทั้งยังเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ฉลาดและน่ารักอีกด้วย โดยจะแบ่งออกเป็นสองสายพันธุ์หลักด้วยกัน ดังนี้
เวล์ช คอร์กี้ จะโดดเด่นด้วยใบหูที่ตั้งชันชัดเจน มีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอก และหางที่สั้นกว่าสุนัขทั่วไป ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการตัดหางหรือการมีหางที่สั้นมาก ซึ่งในปัจจุบันพันธุ์ พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ จะมีหางที่ยาวขึ้นคล้ายกับพันธุ์คาร์ดิแกน เวล์ช ทำให้บางกลุ่มนิยมตัดหางสุนัขออก แต่ถือว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ที่ร้ายแรงและคนรักสุนัขต่อต้านมาโดยตลอด และตอนนี้มีการออกกฎหมายห้ามตัดหางสุนัขโดยเฉพาะในบางประเทศเรียบร้อยแล้ว ส่วนลักษณะตัวของ เวล์ช คอร์กี้ จะมีความสูงประมาณ 10-12 นิ้ว หากวัดจากหัวไหล่ถึงพื้น และมีน้ำหนักประมาณ 28 ปอนด์ หรือราว 12.7 กิโลกรัม
ส่วนอีกสายพันธุ์ของคอร์กี้อย่าง คาร์ดิแกน เวลช์ ก็ถือว่าเป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง หูตั้ง หางยาว โครงสร้างกระดูกที่แข็งแรงกว่า ส่วนใบหน้าคล้ายสุนัขจิ้งจอก ช่วงลำตัวมีความยาวมากกว่าความสูง หลังตรง ขนปกคลุมเป็น 2 ชั้น ชั้นนอกหนา หยาบ และยาวปานกลาง ส่วนชั้นในหนา นุ่ม และสั้น มีสีขนหลากหลาย ส่วนความจะอยู่ประมาณ 12 นิ้ว วัดจากหัวไหล่ถึงพื้น และน้ำหนักประมาณ 30 ปอนด์ หรือราว 13.6 กก.
สุนัขพันธุ์คอร์กี้ มีลักษณะนิสัยอย่างไร
เวลช์ คอร์กี้เป็นสุนัขที่โดดเด่นทั้งความคล่องแคล่ว ว่องไว ความกล้าหาญ มีนิสัยกระตือรือร้น ร่าเริง ไม่ชอบอยู่นิ่งทำให้คอร์กี้เป็นสุนัขเฝ้าบ้านอย่างดี โดยหากเจาะในแต่ละพันธุ์ของคอร์กี้ไปอีกนั้นเริ่มตั้งแต่ พ็อมโบรค เวลช์ คอร์กี้ถือว่าเป็นสุนัขที่แข็งแรง เด็ดเดี่ยว มีพละกำลังทำงานตลอดทั้งวันในฟาร์มวัวฟาร์มแพะ อัธยาศัยดีชอบเข้าสังคม ว่องไว คล่องแคล่วมาก และพันธุ์คาร์ดิแกน เวลช์ คอร์กี้จะมีความกล้าหาญ แข็งแรง กระตือรือร้น และตื่นตัวตลอดเวลา มีความฉลาด เด็ดเดี่ยว ไม่กลัวคน แต่ก็ไม่ได้ก้าวร้าว
แนวทางการดูแลหมาคอร์กี้และออกกำลังกาย
น้องหมาคอร์กี้ นอกจากจะมีรูปร่างอ้วนกลมน่ารักแล้ว ยังมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพบางอย่างที่พบบ่อย โดยเฉพาะโรคข้อสะโพกเสื่อม และโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งเกิดจากโครงสร้างกายภาพของร่างกายบริเวณขาที่สั้น และลำตัวที่ยาวของพวกมันนั่นเอง ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรใส่ใจดูแลสุขภาพของคอร์กี้เป็นพิเศษ โดยพาไปออกกำลังกายที่เหมาะสมสำคัญมากๆ อย่างการเดินเล่นเบาๆ การว่ายน้ำ หรือการเดินสายพานใต้น้ำ หรือกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดแรงกระแทกมากจนเกินไปจะช่วยเซฟได้มากทีเดียว
หมาพันธุ์คอร์กี้ ควรให้อาหารอย่างไร
สุนัขพันธุ์คอร์กี้จะมีน้ำหนักเฉลี่ยของสายพันธุ์ต่างกันคือพ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ อยู่ที่ 10-13 กิโลกรัม ส่วนสายพันธุ์คาร์ดิแกน เวล์ช คอร์กี้ อยู่ที่ 14-17 กิโลกรัม ดังนั้น ปริมาณอาหารที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ รวมถึงระดับพลังงานและอายุของสุนัขด้วย ได้แก่ อาหารสำหรับลูกสุนัขคอร์กี้ 3 เดือนขึ้นไปต้องเน้นพลังงานสูง แบ่งเป็น 3 มื้อในช่วงแรก แล้วลดเหลือ 2 มื้อเมื่ออายุ 8 เดือนขึ้นไป โดยต้องอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ แมกนีเซียม และโปรตีน เพื่อบำรุงกระดูกและป้องกันโรคข้อสะโพกเสื่อม สำหรับคอร์กี้โตเต็มวัย ควรให้ปริมาณอาหาร 1 ถ้วยต่อวัน แบ่งเป็น 1 หรือ 2 มื้อก็ได้ ส่วนคอร์กี้สูงวัย 7 ปีขึ้นไป ควรควบคุมน้ำหนักและให้สารอาหารประเภทโปรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์เพื่อดูแลระบบขับถ่าย
คอร์กี้เป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง มีความน่ารัก ร่าเริงเป็นมิตร ชอบเรียกร้องความสนใจ แต่ก็ฉลาดแสนรู้ รักและซื่อสัตย์กับเจ้าของมาก รวมไปถึงมิตรกับทุกคนและสัตว์อื่นๆ ด้วย มีพลังเหลือล้น มันจึงต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ ดังนั้นคนเลี้ยงก็ควรเลือกอาหารที่มีคุณภาพสูงและแคลอรี่ที่เหมาะสม เนื่องจากคอร์กี้มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักเกินได้ง่าย ซึ่งอาจเกิดปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ ตามมาอย่าง โรคข้อสะโพกเสื่อม เนื่องจากขาที่สั้นและอ้วน และโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเนื่องจากลำตัวที่ยาว การดูแลสุขภาพของคอร์กี้จึงมีความสำคัญไม่น้อยเลย ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจากสุนัขทั่วไปถือว่าเป็นสุนัขพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์และเลี้ยงง่าย ไม่ได้มีอะไรจุกจิกมาก เหมาะสำหรับครอบครัวดีทีเดียว