สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) สุนัขพันธุ์ใหญ่ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงด้านกีฬา ทั้งฉลาดแสนรู้แถมยังมีพละกำลังมากมาย พื้นฐานเป็นสุนัขที่ตัวใหญ่ แข็งแรง ทรงตัวดี แถมยังถูกใช้ให้เป็นสุนัขล่าสัตว์อย่างดีอีกด้วย ดังนั้นสำหรับท่านที่สนใจสุนัขสายพันธุ์นี้ เรามีรายละเอียดมาอธิบายแนะนำให้ได้ทราบกัน ทั้งประวัติที่มาที่ไปของสายพันธุ์ รวมถึงนิสัย และการเลี้ยง การออกกำลังกาย ให้อาหาร อย่างไรจึงจะเหมาะสมสำหรับลาบราดอร์

ประวัติสายพันธุ์ลาบราดอร์

สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) ที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า ลาบราดอร์ มีต้นกำเนิดสายพันธุ์มาจากเกาะฟันด์แลนด์ ในประเทศแคนาดา ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อเดิมของพวกมันคือ เซนต์ จอห์น (St. John’s) เป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงในครอบครัว โดยเฉพาะกับครอบครัวของชาวประมง เพราะลาบราดอร์เป็นสุนัขที่ช่วยในการจับปลาได้ โดยการปลดตะขอออกจากปลาที่ตกได้อย่างฉลาด และยังสามารถว่ายน้ำในระยะไกลได้ ซึ่งในอดีตไม่ได้มีหลักฐานที่ระบุว่าลาบราดอร์เป็นการผสมพันธุ์ระหว่างสายพันธุ์ใด แต่ทางนักชีววิทยาคาดการณ์ว่ามาจากการผสมพันธุ์ของสุนัขสายพันธุ์นิวฟันแลนด์และสุนัขท้องถิ่นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ไม่สามารถระบุได้

ลาบราดอร์ได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อมีการเลี้ยงในเกาะอังกฤษช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 นิยมนำมาใช้ล่าสัตว์ปีก และต้องเข้าป่าลึก ดังนั้นจึงต้องเลือกสุนัขที่มีสายพันธุ์เฉพาะเพื่อช่วยค้นหาเหยื่อ แต่ช่วงนั้นยังต้องนำเข้าลาบราดอร์จากแคนาดา และมีกฎหมายภาษีที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้สุนัขพันธุ์นี้ลดลงจนเกือบสูญพันธุ์ จนกระทั่งต่อมามีกลุ่มคนที่ยังสนใจสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ ผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างลาบราดอร์ที่เดิมมีแค่สีดำ กลายมาเป็นสีเหลืองหรือสีครีม ที่เรียกว่าสายพันธุ์กลุ่มรีทรีฟเวอร์นั่นเอง และยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันนี้

สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ มีลักษณะเด่นอย่างไร

ลักษณะเบื้องต้นของสุนัขลาบราดอร์นั้น เนื่องจากเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อล่าสัตว์หรือจับสัตว์โดยเฉพาะ จึงมีรูปร่างที่ค่อนข้างใหญ่ ขนาดตัวใหญ่ มีความสง่างาม มีกล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วงหัวที่กว้าง แต่หูจะพับลง มีดวงตาขนาดใหญ่ที่ทำให้เห็นแววตาการแสดงออกชัดเจน ใจดีและเป็นมิตรกับผู้คน ลักษณะตาเป็นสีแดงหรือน้ำตาล มีเส้นรอบตาสีดำ โครงสร้างลำตัวค่อนข้างสมส่วนทำให้พวกมันตรงตัวได้ดีในแต่ละสถานการณ์ โดยจะแบ่งสายพานออกเป็น 2 ลักษณะคือ ลาบราดอร์ฝั่งอเมริกาจะมีรูปร่างสูงและช่วงตัวกว้าง ใบหูจมูกยาวกว่าเล็กน้อย ส่วนลาบราดอร์สายพันธุ์อังกฤษจะมีความดุดันน้อยกว่าและธรรมชาติ

ส่วนช่วงหางจะมีลักษณะหนาและแข็งแรง คล้ายกับหางของตัวนาก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่ทำให้มันสามารถทรงตัวขณะว่ายน้ำได้ดี แถมยังมีเท้าที่เป็นพังผืดช่วยในการว่ายน้ำได้ดีด้วย และยังสามารถวิ่งบนสภาพพื้นหนาวทนต่อสภาพบนพื้นผิวหิมะได้ มีร่างกายแข็งแรงและทนต่อสภาวะอากาศที่แปรปรวนได้อย่างดี ส่วนช่วงขนจะมีด้วยกันหลักๆอยู่ 3 สี คือ สีดำ สีทอง และสีน้ำตาลเข้ม โดยบางตัวอาจจะมีตำแหน่งสีตามร่างกายเพิ่มขึ้นมาได้ นอกจากนี้ความสูงจะอยู่ที่ประมาณ 57 ถึง 62 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 25 ถึง 32 กิโลกรัม ส่วนเพศเมียจะมีความสูงน้อยกว่าประมาณ 2 เซนติเมตร แต่จะหนักมากกว่าประมาณ 4-5 กิโลกรัม และอายุขัยของลาบราดอร์โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 10-14 ปี

ลาบราดอร์ มีลักษณะนิสัยอย่างไร

สำหรับสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ ถือว่าขึ้นชื่อในเรื่องของความฉลาดหัวไว นิสัยดีและเป็นมิตรกับผู้คน และชอบเอาใจขี้ประจบ ยิ่งเมื่อโตขึ้นก็จะยิ่งมีความขี้เล่นกระตือรือร้นตลอดเวลา มีความอดทนในการฝึกฝนและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว หากนำไปใช้ในการฝึกเพื่อทำงานจะมีสมาธิมาก นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกมันได้รับความนิยมในการนำไปฝึกให้เป็นสุนัขช่วยเหลือตำรวจ หรือช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา เป็นสุนัขที่มีสมาธิดีสูงมาก

นิสัยของพวกมันยังรักการผจญภัย ชอบเล่นน้ำ สามารถเล่นน้ำได้ทั้งวัน และยังเป็นสุนัขจอมตะกละกินได้ตลอดเวลา แต่ก็สามารถควบคุมได้หากฝึกฝนมาดี สิ่งหนึ่งที่ควรเตรียมตัวและระมัดระวังไว้คือพละกำลังในช่วงวัยเจริญพันธุ์จะมีค่อนข้างสูงมาก และต้องการเวลาอยู่กับเจ้าของมากขึ้นด้วย ดังนั้นคนที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ก็ควรที่จะมีเวลาให้ ไม่ใช่นานแล้ว อาจจะทำลายข้าวของหรือมีความวิตกกังวลได้

แนวทางการดูแลสุนัขลาบราดอร์และออกกำลังกาย

ลาบราดอร์ เป็นสุนัขที่ค่อนข้างมีพลังงานเหลือเฟือ พละกำลังล้น จึงต้องการกระตุ้นร่างกายอยู่ตลอดเวลา การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก แต่ก็ไม่ควรที่จะฝึกหนักตั้งแต่ช่วงอายุน้อย เพราะอาจจะมีปัญหาด้านข้อต่อในภายหลังได้ เราจะสังเกตได้ว่าเรามาโดนชอบการวิ่งเล่น ยิ่งถ้าหากพวกมันยังไม่หมดแรงก็จะแสดงพฤติกรรมทำลายข้าวของ มีความก้าวร้าว หรือบางครั้งอาจจะทำร้ายเจ้าของได้เลย ดังนั้นจึงสำคัญมากหากต้องการเลี้ยงลาบราดอร์ก็ควรที่จะนำไปฝึกเพื่อปรับพฤติกรรมเหล่านี้ แนะนำให้ฝึกออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 45 นาที โดยอาจจะใช้การเดิน การวิ่ง หรือเล่นลูกบอล หรือกิจกรรมใดก็ได้ที่ให้ได้เคลื่อนไหวตลอดเวลา จะช่วยให้ได้ทั้งสุขภาพดีและอารมณ์ดีขึ้น

หมาพันธุ์ลาบราดอร์ ควรให้อาหารอย่างไร

สำหรับอาหารของสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ ควรให้อาหารแห้งที่มีสารอาหารสูง แบ่งเป็น 2 มื้อต่อวัน วันละ 3-4 ถ้วย อาหารจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับสุนัขสายพันธุ์นี้ และจะส่งผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพและช่วงข้อต่อเมื่อโตเต็มวัย หากได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง และอาจจะมีปัญหาข้อต่อตามมาได้ เพราะเนื่องจากลาบราดอร์เป็นสุนัขที่ค่อนข้างลำตัวใหญ่ กล้ามเนื้อเยอะ แถมยังนิสัยแอ็คทีฟตลอดเวลาด้วย จากนี้ควรฝึกวินัยเรื่องการให้อาหารให้ดี เพราะลาบราดอร์มีนิสัยกินตะกละ ควรให้อาหารในปริมาณที่กำหนดไว้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อไม่ให้เกิดโรคอ้วนตามมา และจะช่วยให้มันแข็งแรงมีสุขภาพดีเสมอ

สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ ปัจจุบันถือว่าเป็นสุนัขที่มีความสามารถหลากหลาย สามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้เร็ว แนะนำไปใช้ให้ช่วยงานได้มากมายกว่าสายพันธุ์อื่น เพราะเนื่องจากมันมีความฉลาดหลักแหลม มีพละกำลังที่มาก ทำให้ผู้คนนิยมใช้ในการล่าสัตว์ หรือใช้เพื่อปฏิบัติการพิเศษทางการทหารตำรวจ ใช้ในการตรวจค้นหายาเสพติด ค้นหาระเบิด หรือช่วยนำทางให้กับผู้พิการด้านสายตาได้ด้วย

และถึงแม้มันจะดูร่างกายกำยำและน่ากลัวในบางมุม แต่มันก็มีนิสัยที่รักเด็ก เข้าได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมไปถึงสัตว์ขนาดเล็กก็ยังอ่อนโยนต่อกันด้วย เพราะพื้นฐานมันชอบที่จะปกป้องคนที่รัก มีความซื่อสัตย์กับคนที่รัก ทำให้มันสามารถรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยน แต่บางครั้งสัญชาตญาณของความเป็นนักล่า บางครั้งจึงอาจแสดงอาการก้าวร้าว ความเครียด หรือเล่นแรงไปบ้างในบางครั้ง ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนให้ดีเพื่อที่จะควบคุมอาการเหล่านี้ของมันนั่นเอง

สายพันธุ์หมาและนิสัย