อเมริกันพิตบูล เทอร์เรีย หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันในชื่อ พิทบูล สุนัขสายพันธุ์ที่หลายคนไม่ค่อยจะกล้าเล่นด้วยสักเท่าไร ออกขึ้นชื่อในเรื่องของความดุร้าย แถมยังเป็นสายพันธุ์ที่คนเลี้ยงกันทั่วโลก แต่ค่อนข้างจะเฉพาะกลุ่มซะมากกว่า และเราก็คงจะเคยได้เห็นกันในข่าวบ่อยๆ ถึงความดุร้ายที่กัดแม้กระทั่งคน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังขึ้นชื่อในเรื่องของความซื่อสัตย์และภักดีกับคนเลี้ยงถึงขั้นตายแทนเจ้าของได้ แถมหากเลี้ยงได้ถูกวิธีก็ช่วยป้องกันภัยร้ายได้ด้วย ดังนั้นมาทำความรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์นี้กันให้มากขึ้นดีกว่า
ประวัติสายพันธุ์ พิทบูล
สุนัขพันธุ์พิทบูลเริ่มมีมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 มาจากการผสมข้ามสายพันธุ์ของสุนัขระหว่างฮันบูลด็อกและเทอเรีย เพื่อความต้องการที่จะได้สุนัขพันธุ์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งในตอนนั้นสุนัขพันธุ์พิทบูลได้รับรางวัลสุนัขสายพันธุ์ผสมที่มีความแข็งแรงน่าประทับใจ และยังถูกใช้ในช่วงสงครามในฐานะของการเป็นผู้พิทักษ์ด้วย เพราะรักขนาดเด่นที่มีความก้าวร้าวดูน่าเกรงขาม จนกระทั่งต่อมาในปี 1920 สุนัขพันธุ์พิทบูลได้รับฝึกฝนให้ใช้ในการล่อกะทิง รวมถึงความสามารถสะกดรอยตาม ความเร็วการไล่ล่า และการลากยกน้ำหนักได้ ได้ถูกขนาดนามว่าเป็นสุนัขแห่งการต่อสู้
และในปี 1980 ผู้นำมาเล่นในบทภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง และมีการเผยแพร่ให้เห็นถึงสุนัขสายพันธุ์นี้มากยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสุนัขสายพันธุ์พิทบูลถือว่าคุ้มชินกับมนุษย์ และถูกเลี้ยงฝึกเป็นอย่างดี มีความรักสงบ รักธรรมชาติ ต่างจากช่วงแรกของบรรพบุรุษสายพันธุ์ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขสายพันธุ์เด่นของอเมริกันเรียบร้อยแล้ว
หมาพันธุ์พิทบูล มีลักษณะเด่นอย่างไร
สุนัขพันธุ์พิทบูล จัดอยู่ในสุนัขสายพันธุ์ขนาดกลาง มีรูปร่างปานกลางสันทัด มีสัดส่วนพอดีลำตัวจะปกคลุมไปด้วยขนสั้น แต่จะมีความเงาและหยาบ มีกล้ามเนื้อที่แน่น ดวงตากลมเรียว ขากรรไกรที่แข็งแรงและกว้างใหญ่ มีหางที่หนาและเรียว และกล้ามเนื้อแขนที่ใหญ่เพื่อรองรับน้ำหนักในช่วงหัวได้ดี โดยจะมีความสูงอยู่ประมาณ 46-61 เซนติเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 35-60 ปอนด์ พบได้หลากหลายสีขึ้นอยู่กับพันธุกรรม และมีอายุเฉลี่ยอยู่ประมาณ 12-14 ปี
ลักษณะนิสัยของ พิทบูล
สำหรับสุนัขสายพันธุ์พิทบูล แม้จะมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีจากความก้าวร้าว มีกำลังเยอะ แต่ไม่น่าเชื่อว่ากลายเป็นที่รักของผู้คนได้ เพราะถึงแม้จะดุร้ายแต่หากเลี้ยงให้ดีก็เป็นสุนัขที่เชื่อฟัง มีความซื่อสัตย์ภักดีต่อเจ้าของ ไว้วางใจได้ สามารถตายแทนเจ้าของได้เลยทีเดียว นอกจากนี้พิทบูลยังสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วหากได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี โดยเฉพาะหากใครที่อยากจะเลี้ยงตามบ้านเรือนทั่วไป ยังไงก็ต้องฝึกเท่านั้นเพราะไม่ใช่นานแล้วจะจะเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างได้ และควรระมัดระวังเพราะพิทบูลไม่เชื่อฟังเจ้าของตลอดเวลา หากเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวก็อาจจะควบคุมได้ไม่ทัน ขนาดเดียวกันสุนัขพันธุ์พิทบูลถือว่ามีความกระฉับกระเฉงและสามารถเข้ากับเด็กๆ ได้ มีนิสัยขี้เล่นและมีความอดทน มีความเป็นธรรมชาติเมื่อได้รับความรักจากคนในครอบครัว
แนวทางการดูแลสุนัขพิทบูลและออกกำลังกาย
ในส่วนของการฝึกออกกำลังกายนั้น แนะนำว่าสุนัขพันธุ์พิทบูลควรที่จะออกกำลังกายด้วยกิจกรรมที่ได้ใช้ร่างกายในทุกสัดส่วน เนื่องจากมันเป็นสุนัขที่ฉลาด หากใช้เวลาฝึกแล้วก็ควรจะมีกิจกรรมผ่อนคลายความเครียดด้วย เพื่อป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าว โดยอาจจะนำไปวิ่ง พาไปเดินเล่น เดินเขา จะเป็นการช่วยผ่อนคลายได้อย่างดี จำไว้ว่าการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ไม่ควรปล่อยละเลยให้มันเครียด เพราะอาจจะแสดงพฤติกรรมที่เราไม่ทันได้เตรียมตัวหรือไม่พึงประสงค์ได้นั่นเอง
หมาพันธุ์พิทบูล ควรให้อาหารอย่างไร
อาหารที่แนะนำสำหรับสุนัขสายพันธุ์พิทบูล ก็ควรที่จะควบคุมอาหารที่มีโภชนาการดี เพื่อควบคุมน้ำหนัก และต้องควบคุมความต้องการอาหารของพิทบูลด้วย โดยใน 1 วันควรให้บ่อยๆ แต่ให้ในปริมาณครั้งละน้อยๆ โดยให้คำนึงจากอายุรวมถึงกิจกรรมในแต่ละวัน หากวันไหนที่มีการออกกำลังกายหรือใช้พลังงานก็อาจจะเพิ่มปริมาณอาหารที่ให้ได้ตามความเหมาะสม แต่โดยเฉลี่ยแล้วสุนัขพันธุ์พิทบูลขนาดกลาง จะกินอาหารอยู่ที่ประมาณ 20 ปอนด์ต่อเดือน
สุนัขพันธุ์พิทบูล ถือว่าเป็นสุนัขที่อยู่ในการควบคุมพิเศษ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และกลุ่มปศุสัตว์ก็ได้มีการสั่งห้ามนำเข้าสุนัขสายพันธุ์นี้ แต่ปัจจุบันยังมีการลักลอบนำมาจำหน่ายอยู่เรื่อยๆ แต่ถึงแม้พิทบูลจะมีนิสัยที่ดุร้าย แต่มันก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความจงรักภักดีซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ หากเกิดอันตรายใดๆ กับเจ้าของมันสามารถแทนตายเราได้ นี่คือลักษณะเด่นที่ไม่มีในสุนัขสายพันธุ์อื่นเลย มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นนักล่าที่ซื่อสัตย์
ธรรมชาติของมันคือการกัดแบบไม่ปล่อย อดทนต่อความเจ็บปวดได้ทุกรูปแบบ มีสัญชาตญาณในการต่อสู้อย่างมาก เหมาะกับการเลี้ยงไว้สำหรับเฝ้าบ้านหรือป้องกันโจรขึ้นบ้านได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ควรที่จะปล่อยปละละเลยให้สุนัขพันธุ์นี้เดินเล่นนอกบ้านลำพัง เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้กับผู้คนและสัตว์ตัวอื่น และต้องฝึกฝนให้ตั้งแต่เล็กๆ ด้วยเท่านั้น