ปอมเมอเรเนี่ยน (Pomeranian) สุนัขตัวเล็ก มีขนฟู แถมหน้าแหลมเป็นเอกลักษณ์แบบนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องสังเกตได้ง่ายๆ แน่นอน และความน่ารักของพวกมันก็ไม่ธรรมดาอีกด้วย จนเรียกว่าน่าจะเป็นสุนัขตัวลูกรักของใครหลายๆ คนกันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นอย่างมาก จนครองใจกับบรรดาคนรักสุนัขสายพันธุ์เล็ก เลี้ยงสะดวก พกพาง่าย แบบนี้ต้องปอมเปอเรเนี่ยนกันเลย
ประวัติสายพันธุ์ปอมเมอเรเนี่ยน
สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จากแคว้นปอมเมอเรเนีย (Pomerania) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีและโปแลนด์ โดยบรรพบุรุษของปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขในตระกูลสปิตซ์ (Spitz) เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์นอร์วีเจียน เอลก์ฮาวด์, ชิปเพิร์ก, อเมริกัน เอสกิโม, เยอรมัน สปิตซ์ และซามอยด์ เราจึงจะเห็นว่าสุนัขเหล่านี้มีลักษณะเด่นร่วมกัน ได้แก่ ใบหน้าที่ยื่น หูตั้ง และขนที่ยาวหนา
สมัยก่อนปอมเมอเรเนียนได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้เป็นสุนัขลากขนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักได้มากถึง 30 ปอนด์ จนเมื่อปอมเมอเรเนียนกลายเป็นที่นิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงในบ้าน สายพันธุ์นี้ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่เป็นเจ้าของสุนัขปอมเมอเรเนียน ได้แก่ นักบวช และนักปฏิรูปศาสนาชาวเยอรมัน มาร์ติน ลูเทอร์ จิตรกรและประติมากรชาวอิตาลี ไมเคิลแองเจโล และนักฟิสิกส์และนักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษอย่าง ไอแซก นิวตัน อีกด้วย
ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 18 เจ้าหญิงโซฟี ชาร์ล็อตต์แห่งปอมเมอเรเนียได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายอังกฤษที่มาได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจอร์จที่ 3 เมื่อหลานสาวของพระองค์ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียครองราชย์ก็ทรงโปรดสุนัขเป็นอย่างมากและได้ผสมพันธุ์สุนัขสายพันธุ์ต่างๆ กว่าสิบห้าสายพันธุ์ จนถึงปี 1888 ระหว่างการเสด็จเยือนอิตาลี สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียทรงพบกับปอมเมอเรเนียนขนาด 12 ปอนด์และทรงโปรดปรานเป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าปอมเมอเรเนียนในปัจจุบันมีขนาดเล็กลงเนื่องจากการปรับปรุงสายพันธุ์ของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย
สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนี่ยน มีลักษณะเด่นอย่างไร
ปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขขนาดเล็กที่มีน้ำหนักตัวอยู่ระหว่าง 1.9-3.5 กิโลกรัม และความสูงประมาณ 13-28 เซนติเมตร มีรูปร่างกะทัดรัดแต่แข็งแรง มีขนหนาแน่นเป็นพุ่มบริเวณรอบคอและหลัง และมีหางที่ตั้งสูงแบบแนบไปกับหลัง ในช่วงแรกๆ ของการเพาะสายพันธุ์นั้นปอมเมอเรเนียนจะมีขนสีขาวหรือดำเป็นหลัก แต่ในปี 1888 ราชินีวิกตอเรียได้นำปอมเมอเรเนียนสีแดงมาเลี้ยง ทำให้สีแดงกลายเป็นที่นิยมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่ปัจจุบันก็มีปอมที่มีสีขนหลากหลายมากขึ้นกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งขาว ดำ น้ำตาล ส้ม ครีม แดง น้ำเงิน น้ำตาลเข้ม ดำผสม เป็นต้น
ปอมเมอเรเนียนลายหินอ่อนถือว่าเป็นสีที่เพิ่งได้รับการพัฒนาขึ้นโดยนักเพาะพันธุ์ที่เป็นการผสมผสานระหว่างสีพื้นอ่อนอย่างสีน้ำเงินหรือสีเทา และแต้มด้วยลวดลายด่าง สีที่พบได้ทั่วไปของลวดลายด่างนี้คือสีแดง น้ำตาล หรือดำ ปอมเมอเรเนียนมีขนสองชั้นหนาที่ดูแลรักษาได้ง่าย แม้ว่าขนจะหนาและมีการผลัดขนเป็นประจำ แต่ก็แนะนำให้แปรงขนทุกวันเพื่อป้องกันการพันกัน ขนชั้นนอกยาว ตรง และหยาบ ขณะที่ขนชั้นในนุ่ม หนา และสั้น ขนของปอมเมอเรเนียนมักจะจับตัวเป็นกระจุกและพันกันได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่ผลัดขนชั้นในปีละสองครั้งเท่านั้น และอายุขัยของปอมจะอยู่ที่ประมาณ 12-15 ปี
สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนี่ยน มีลักษณะนิสัยอย่างไร
ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่เป็นมิตรและชอบเข้าสังคม แต่บางครั้งพวกมันก็ชอบประเมินขนาดของตัวเองเกินจริงหรือตัวเล็กแต่คิดว่าตัวเองใหญ่นั่นเอง ดังนั้นบางครั้งเราจึงอาจจะเห็นว่าปอมเมอเรเนียนแสดงอาการก้าวร้าวกับสุนัขตัวใหญ่ๆ ได้ ซึ่งควรพามันออกและแยกกันทันที เพราะแม้ว่ามันอาจคิดว่าสามารถรับมือกับสุนัขตัวใหญ่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังไงก็สู้ไม่ไหวแน่นอน
อีกลักษณะนิสัยอย่างการตื่นตัวและเห่าเสียงดังของปอมเมอเรเนียนนั้น อาจเกิดจากการที่ลูกสุนัขถูกพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งอาจส่งผลให้สุนัขมีบุคลิกขี้อายหรือก้าวร้าวนั่นเอง ทำให้ส่งผลต่อการพัฒนาทางสังคมของพวกมันอีกด้วย และแม้ว่ามันจะขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิตร แต่ก็ไม่แนะนำให้อยู่ตามลำพังกับเด็กเล็ก เพราะเด็กส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจถึงความบอบบางของร่างกายของปอม จนอาจจะเล่นผิดๆ จนมันเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจได้ ซึ่งพวกมันอาจจะแว้งกัดเด็กเล็กได้เลยแม้จะสนิทกันมาก่อนก็ตาม แนะนำว่าควรสอดส่องดูแลให้ทั่วถึงตลอดเวลาด้วย
แนวทางการดูแลสุนัขปอมเมอเรเนี่ยนและออกกำลังกาย
เนื่องจากปอมมีขนาดตัวเล็ก จึงเหมาะกับการออกกำลังกายภายในบ้าน สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ปอมมีสุขภาพดีคือการพาออกเดินเล่นเป็นเวลาสั้นๆ ทุกวัน แต่ในช่วงฤดูร้อนควรลดระยะเวลาการเดินลง เพื่อป้องกันภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไปจนเป็นลมแดดได้ อีกทั้งปอมถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่ชอบเล่นของเล่น จึงควรเตรียมของเล่นไว้ให้เพียงพอเพื่อความเพลิดเพลินของพวกมันด้วย
หมาพันธุ์ปอมเมอเรเนี่ยน ควรให้อาหารอย่างไร
สำหรับปอมเมอเรเนียน อาหารที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวันคือประมาณ 25-50% ของถ้วยก็เพียงพอแล้ว โดยแบ่งเป็นสองมื้อต่อวัน แต่ปริมาณอาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขแต่ละตัวอาจแตกต่างกันไป ก็ต้องขึ้นอยู่กับอายุและระดับการออกกำลังกายในแต่ละวันด้วย หากสุนัขปอมเริ่มมีน้ำหนักเกินนั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแรงกดบนข้อต่อและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้
การเลี้ยงดูสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนนั้นไม่ใช่แค่เรื่องความชื่นชอบ หรือการเลี้ยงตามกระแสเท่านั้น แต่ผู้เลี้ยงควรจะต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของพวกมันให้ได้ เข้าใจในนิสัยต่างๆ และเรียนรู้ไปกับมัน ดังนั้นการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์และประวัติความเป็นมาที่เราได้นำเสนอไปให้ทั้งหมดนี้จะช่วยให้สามารถเรียนรู้และเข้าใจ ยอมรับความเป็นปอมได้มากขึ้น